เชื่อว่าในปัจจุบันเจ้าของรถหลายคน มักใช้ชีวิตในรถเสมือนเป็นบ้านหลังที่สอง ทั้งเป็นที่กินข้าว แต่งหน้าแต่งตัว เปลี่ยนเสื้อผ้า แม้กระทั่งว่าใช้เป็นที่หลับนอนก็ยังมี แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาหลังจากนี้คือมีข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ กองรวมไว้อยู่ในรถอย่างมากมายโดยไม่รู้ตัว ที่สำคัญหลายคนยังคาดไม่ถึงว่าสิ่งของบางชนิดที่เรานำไว้ในรถ ไม่ว่าจะด้วยความตั้งใจหรือเผลอลืมไว้ก็ตาม อาจกลายเป็นภัยร้ายที่สร้างความเสียหายให้กับรถคู่ใจของคุณ
ไฟแช็ก ส่วนใหญ่จะเป็นของบรรดาหนุ่มๆ ที่เป็นสิงห์อมควันทั้งหลาย ซึ่งปัจจุบันรถรถใหม่มักไม่มีที่จุดบุหรี่มาให้ จึงนำไฟแช็กมาเก็บไว้ในรถ ซึ่งหากถูกแสงแดดกระทบเป็นเวลานานอาจจะทำให้เกิดการระเบิด ที่อาจส่งผลให้กระจกรถยนต์แตกร้าว หรือวางไว้บนคอนโซลรถก็เสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้ได้
ในกรณีทิ้งไฟแช็กไว้ในรถอาจไฟไหม้ได้ ซึ่งข้อพิสูจน์ดังกล่าวรศ. ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่าเคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นจริงทั้งในประเทศไทย ข้อมูลอ้างอิง และในต่างประเทศ โดยเฉพาะรุ่นที่ซื้อในต่างประเทศ จะมีคำเตือนระบุชัดว่า ‘ห้ามทิ้งไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 120 องศาฟาเรนไฮต์ (ประมาณ 50 องศาเซลเซียส) หรือโดนแสงแดดเป็นเวลานานๆ’
ซึ่งแน่นอนว่า เวลาเราจอดรถตากแดดจัดๆ นั้น อุณหภูมิภายในรถยนต์ สามารถสูงขึ้นไปได้ถึง 60 องศาเซลเซียสทีเดียว นั่นก็แปลได้ว่า รถยนต์จึงไม่ใช่บริเวณที่เหมาะสมจะวางไฟแช็คทิ้งไว้ และมันน่าจะเกิดกับไฟแช็คที่ใช้ไปเยอะแล้ว ทำให้มีที่ว่างในตัวมันมากพอที่จะสะสมแก๊สอันเกิดจากเชื้อเพลิงของเหลวภายใน (พวกบิวเทน) แล้วขยายตัวขึ้นจนระเบิด การระเบิดของตัวไฟแช็คนั้นถ้าบังเอิญทำให้เกิดประกายไฟขึ้นจากชิ้นส่วนโลหะที่กระเด็นออก ก็อาจจะทำให้ติดไฟ ไฟไหม้ได้ (จุดวาปไฟของบิวเทนในรูปแก็สมันต่ำมาก) ดังนั้นสรุปว่า ใครใช้ไฟแช็กอยู่ ก็อย่าเผลอทิ้งไว้ในรถที่จอดตากแดด
กระป๋องสเปรย์ ส่วนใหญ่มาในรูปแบบของสเปรย์ดับกลิ่นกาย ดับกลิ่นในรถ หรือสเปรย์เคลือบทำความสะอาดรถ ซึ่งหากลืมทิ้งไว้และรถของคุณต้องจอดกลางแจ้งเป็นประจำ เมื่อถูกความร้อนนานๆ เข้าก็อาจจะทำให้วัตถุ สารเคมี และแก๊สในกระป๋องขยายตัวจนเกิดประกายไฟหรือระเบิดได้

ในขณะที่การเก็บกระป๋องสเปรย์ไว้ในรถยนต์นั้นก็เคยเกิดระเบิดขึ้นจริงในเยอรมนี โดยผู้ผลิตสเปรย์ก็ได้ระบุไว้ฉลากข้างกระป๋องไว้อย่างชัดเจนว่าควรเก็บไว้ในที่ระบายอากาศได้ดีเท่านั้น สาเหตุที่ไม่ให้เก็บกระป๋องสเปรย์บรรจุผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่อุณหภูมิสูง อธิบายได้ด้วยกฎของชาร์ล (Charles’ Law) คือมวลของแก๊สภายในกระป๋องสเปรย์คงที่ เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น แก๊สภายในกระป๋องสเปรย์จะเกิดการขยายตัวจนอาจทำให้กระป๋องสเปรย์ระเบิดได้ ถ้านำไปใช้ใกล้ความร้อนจะเป็นอันตรายแก่ผู้ใช้ได้
แบตเตอรี่สำรอง หรือที่เรารู้จักกันดีว่า Powerbank ซึ่งหากเป็นแบบลิเธียมไอออน ด้วยคุณสมบัติเป็นโลหะที่ไวต่อปฏิกิริยาทางเคมี เมื่อได้รับความร้อนเป็นเวลานานๆ อาจทำให้เกิดการลัดวงจร ส่งผลให้เกิดการระเบิดได้ ซึ่ง รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า มันน่าจะเป็นไปได้ครับ ถ้าแบตเตอรี่เป็นรุ่นแบต “ลิเธียมไอออน” ซึ่งราคาถูกและจุไฟได้มาก แต่มีโอกาสลัดวงจร ระเบิด หรือติดไฟลุกไหม้ได้ ถ้าเสื่อมสภาพแล้ว หรือของคุณภาพต่ำ หรือตัววงจรควบคุมไฟมีปัญหา (สมัยนี้จะมีแบตลิเธียมโพลิเมอร์ ซึ่งปลอดภัยกว่า)

โทรศัพท์มือถือ เป็นอีกหนึ่งของใช้ที่หลายคนทั้งลืมหรือเก็บไว้ ซึ่งหารู้ไหมว่าความร้อนจากแสงแดดที่ส่องเข้ามาภายในรถ สามารถทำให้วงจรภายในโทรศัพท์ได้รับความเสียหาย และแบตเตอรี่โทรศัพท์เกิดการระเบิด โดยเฉพาะเมื่อยังเปิดใช้งานอยู่ก็ยิ่งจะทำให้ความร้อนสูงขึ้น จึงเสี่ยงต่อการระเบิดได้
แผ่นยางกันลื่น อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ผู้ใช้รถคาดไม่ถึงว่าจะเป็นอันตรายหรือสร้างความเสียหายให้กับรถได้ แม้ว่าเจ้าแผ่นยางกันลื่นสำหรับวางโทรศัพท์ที่เรามักวางไว้เหนือแผงคอนโซลนี้ จะไม่มีการเกิดประกายไฟหรือระเบิดเหมือนกับหลายๆ อุปกรณ์ที่ยกตัวอย่างมา แต่หากโดนความร้อนเป็นเวลานานๆ ก็อาจจะละลายติดไปกับคอนโซลจนเกิดความเสียหายได้
อ้างอิงจาก www.roojai.com